"ก็ทำเหมือนวันนั้นไง"
...
‘วันนั้น’ ที่ว่าลอยเข้ามาในหัวสมองของคิเสะทันที
ใบหน้าแดงปลั่งเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
แต่ทว่าไม่นานก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือเย็นเฉียบของอีกฝ่ายเลื่อนเข้ามาในเสื้อยืดตัวบาง
สัมผัสเข้ากับหน้าท้องเบาๆแล้วเลื่อนมายังยอดอกทันที!
“อ..”
อาโอมิเนะผุดยิ้มเมื่ออีกฝ่ายหลุดเสียงออกมาเบาๆ
ผิวนุ่มลื่นยิ่งทำให้อาโอมิเนะนึกอยากแกล้ง
นิ้วยาวแกล้งสะกิดจุดนั้นไปมาทำเอาคนที่นอนรับสัมผัสร่างกายบิดเร้า
เสื้อยืดตัวบางถูกเลิกขึ้นสูงจนไปกองอยู่เหนือหน้าอก
ยอดอกที่ถูกเคล้นคลึงจนกลายเป็นสีแดงมันล่อตาล่อใจให้อาโอมิเนะต้องลิ้มลอง
ปากหนาเข้าครอบครองดูดดึงจนเกิดเสียง
ส่วนอีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่างนิ้มเรียวเลื่อนขึ้นมาเคล้นคลึงมันอย่างนึกสนุก
“อา..ย
อย่า..”
เสียงครางห้ามเบาหวิวจนแทบจะไม่ได้ยินหากแต่แผ่นอกกลับแอ่นขึ้นรับปลายลิ้นร้อนนั่นอย่างดี
“ถ้าจะห้ามก็ห้ามให้เต็มเสียงหน่อยสิ”
อาโอมิเนะผละริมฝีปากจากยอดอกสีสวยขึ้นมาว่า “ห้ามเสียงแบบนี้เขาเรียกยั่ว”
คิเสะอยากจะเถียงออกไปเหลือเกินว่าเขาไม่ได้คิดจะยั่วอีกฝ่ายสักหน่อย!
แต่ว่าไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรออกไป
มือหนาก็เลื่อนไปดึงรั้งกางเกงที่ใส่เอาไว้ให้หลุดออกจากร่างแล้วโยนลงไปข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ
ส่วนกลางลำตัวที่เริ่มแข็งขืนขึ้นมานิดๆของคนผมทองทำเอาอาโอมิเนะลอบยิ้มออกมา
คิเสะแทบอยากจะระเบิดไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด อีกฝ่ายต้องเยาะเย้ยเขาแน่ๆ
“นี่ไง นายยั่วฉันจริงๆด้วย”
“ม
ไม่ใช่..” เถียงไม่ทันเสร็จก็ต้องเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นเมื่อมือหนาสัมผัสลงมาบนแกนกายที่ร้อนผ่าว
คิเสะหลับตาปี๋ไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองสิ่งที่น่าอับอายตอนนี้ได้เลย
“อึก..”
เขาอยากจะเอ่ยปากห้าม
แต่ก็อย่างว่านั่นแหละที่เขาไม่อาจปฏิเสธสัมผัสจากอาโอมิเนะได้เลยสักครั้ง
ไม่เคยเลย...
มือหนาขยับรูดรั้งเบาๆให้ส่วนนั้นเริ่มตื่นตัวมากยิ่งขึ้น
คิเสะหลับตาแน่นกำมือเข้าหากันระงับความเสียวซ่าน
สัมผัสที่ถูดส่งมอบให้มันทำเอาเขาแทบจะละลายลงให้ได้
“ลืมตาสิคิเสะ”
แม้จะถูกสั่งแต่อีกคนก็ยังไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นมาอยู่ดี
มันน่าอายนี่นา...
“คิเสะ”
เสียงทุ้มที่เรียกซ้ำชิดใบหน้าทำเอาดวงตาสีอ่อนต้องลืมขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ
แต่ก็เหมือนว่าคิดผิด
เมื่อสิ่งที่เห็นคือรอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากหนาที่ดูพึงพอใจเอามากๆกับความเร็วที่ถูกเร่งจากฝ่ามือนั่น
“อ อื้อ..”
จังหวะมือที่ชักนำมันเริ่มเร็วขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว
ดวงตาคู่สวยที่มองสบเข้าไปในดวงตาคู่คมยามนี้มันช่างดูเย้ายวน
ไม่รู้ว่าอีกคนจะรู้รึเปล่าว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาน่ากระทำขนาดไหน
“อาโอมิเนจจิ..ฉัน..”
ปากเรียวส่งเสียงไม่ได้ศัพท์มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาวิงวานเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน
“ม
ไม่ไหว..”
คนที่ไม่ไหวน่าจะเป็นอาโอมิเนะเสียมากกว่า
ยิ่งโดนดวงตาคู่หวานช้อนมองมาด้วยสายตาแบบนั้นแล้วเลือดในกายยิ่งเดือดพล่านเข้าไปใหญ่
มือหนาเร่งจังหวะชักนำความต้องการให้อีกฝ่ายจนอีกคนเสร็จออกมาจนได้
“อ๊า..”
หยาดน้ำถูกปล่อยออกมาจนเลอะมือหนา
คิเสะรู้สึกอับอายจนอยากจะเอาหน้าไปมุดกับพื้นเสียเดี๋ยวนี้
หากว่าทำได้จริงๆเขาคงทำไปแล้ว
“นายคงไม่คิดจะเสร็จคนเดียวหรอกใช่มั้ย?”
“ห..”
คิเสะกำลังจะเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
แต่ความไม่เข้าใจนั้นก็กระจ่างชัดทันทีเมื่อผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่ที่รอบกายช่วงล่างของอาโอมิเนะถูกดึงออกโดยมือหนา
แล้วอีกฝ่ายก็แทรกตัวเข้ามาระหว่างช่วงขาของเขา!
ส่วนแข็งขืนที่พร้อมใช้งานของอีกฝ่ายมันแนบชิดติดกับสะโพกของเขา
ความร้อนผ่าวของมันทำเอาคิเสะหน้าแดงจนลามไปถึงใบหู
“ค
คือมัน..อ๊ะ!” หลุดเสียงครางออกมาทันทีเมื่อมือหนาจับขาของเขาแยกออกจากกันแล้วนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายแทรกเข้ามาในช่องทาง
ความอึดอัดที่แล่นพล่านเมื่อนิ้วขยับในกายทำเอาต้องนิ่วหน้า
“ฮื่อ..”
คิเสะครางงึมงำในลำคอ ความรู้สึกเหมือนอากาศหายใจถูกพรากออกไปจากร่างกาย
ทันทีที่นิ้วเรียวยาวถูกถอนออกไปคิเสะก็หลุดถอนหายใจตาม
ส่วนนั้นของอีกฝ่ายถูไถเข้ากับช่องทางของเขาไปมาจนคิเสะต้องกลั้นเสียง
อาโอมิเนะจับส่วนนั้นจ่อเข้ากับปากทางช้าๆก่อนจะค่อยๆดันมันเข้าในร่างอีกฝ่าย
“อ๊ะ อาโอมิเนจ..จิ”
คิเสะผวาเฮือกแขนเรียวโอบกอดร่างกายหนาของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นทันทีที่ส่วนนั้นค่อยๆแทรกเข้ามาในร่าง
...นี่เขากำลัง...ทำกับอาโอมิเนจจิ...อีกครั้ง
...ทำเหมือนวันนั้นกับอาโอมิเนจจิอีกครั้ง
...แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปจากครั้งที่แล้ว
ที่เกิดจากความขาดสติ
...แต่ว่าครั้งนี้อาโอมิเนจจิมีสติครบถ้วน
“อ๊า!!”
หลุดครางออกมาสุดเสียงเมื่อส่วนนั้นของอีกฝ่ายถูกแทรกเข้ามาจนสุด
ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปนความเสียวซ่าน
“อาโอ..อาโอ..อะ..”
ร่างกายสั่นคลอนไปตามแรงขยับ
เสียงหวานพร่ำเรียกชื่ออีกฝ่ายเหมือนคนไม่ได้สติ อาโอมิเนะมองใบหน้างดงามที่ถูกแรงอารมณ์เข้าครอบงำด้วยความหิวกระหาย
เสียงครางที่หลุดออกมาริมฝีปากได้รูปนั้นยิ่งทำเอาอาโอมิเนะรู้สึกพึงพอใจ
แต่ถึงจะอยากฟังแต่ก็ไม่อยากจะให้ใครมาได้ยินเหมือนกัน...
“อ๊า!
อาโอมิเนจ..อ อื้อ!”
“เสียงดังไปแล้ว”
ว่าแค่นั้นก่อนจะก้มลงกดจูบลงบนริมฝีปากสวยที่ร้องครางย้ำๆ
คิเสะแทบไม่รู้แล้วว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงกี่ยาม
รู้แค่เพียงว่าเขามีความสุข...เอามากๆ
รสจูบที่ยังไม่ถอนบวกกับแรงขยับจากช่วงล่างที่เคลื่อนไหวแทบทำให้คิเสะหมดสติไปให้รู้แล้วรู้รอด
เล็บคมจิกลงที่บ่าแกร่งเบาๆอย่างกลัวอีกคนเจ็บแต่ตนเองก็พยายามหาที่ระบาย
จูบถูกถอนออกมาด้วยความอ้อยอิ่ง
คิเสะช้อนสายตามองอีกฝ่าย ดวงตาที่ฉ่ำอารมณ์นั้นมันช่างออดอ้อน
“ฉัน..ร
รัก อาโอมิเนจจิ”
“อืม..” ไม่รู้ว่านั่นเป็นเสียงตอบรับหรือเป็นเพียงแค่เสียงครางจากอีกฝ่ายกันแน่
“ฉันรักอาโอมิเนจจิ
รักอาโอ..อ อา..รัก..”
ร่างบางพร่ำบอกประโยคนั้นด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น
อาโอมิเนะได้ยินและรับรู้ดี มุมปากยกยิ้มพอใจก่อนจะกดจูบลงบนปากนั้นเบาๆ
“นาย..เป็นของฉัน”
“อื้อ!
อา..โอ..”
“เป็นของฉันคนเดียว..คิเสะ”
แรงส่งเริ่มถี่รัวขึ้นจนคิเสะไม่อาจห้ามเสียงได้อีกต่อไป
เสียงครางหลุดตามแรงส่งหนักๆที่อีกพยายามยัดเยียดเข้ามา น้ำตาไหลไปด้วยความสุขสม
แม้อาโอมิเนจจิจะไม่ได้บอกรักเขากลับมาก็ตาม...แต่ว่าอาโอมิเนจจิก็เรียกชื่อของเขา...
เรียกชื่อของเขาออกมายามที่ขยับกายใส่ร่างกายนี้...
ไม่นานร่างกายก็ปลดปล่อยออกมาในช่องทางคับแคบนั่น
คิเสะรู้สึกล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก
ร่างโปร่งหอบหายใจอย่างแรงอย่างเหนื่อยหอบไม่ต่างจากคนด้านบน
ส่วนนั้นที่ยังไม่ได้ถอนออกไปจากร่างกายทำเอาคิเสะอึดอัดนิดหน่อย
เผลอสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินที่จ้องมองมาก็พลันต้องเบนสายตาหลบทันที
ก็ใครจะไปกล้าสบตากันเล่า...
แต่คิเสะก็ต้องเบิกตากว้างเมื่ออยู่ๆส่วนนั้นของอีกฝ่ายที่อยู่ด้านในตัวของเขามันกลับขยับขยายขึ้นอีกครั้ง!
“อาโอ..อื้อ!”
ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรทั้งสิ้นอีกฝ่ายก็ขยับกายกระแทกเข้ามาจนสุดแรงทันที
คิเสะก็ได้แต่สั่นคลอนไปตามแรงนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
จนไม่รู้ว่าล่วงเลยไปนานแค่ไหนแล้ว...